เรื่องราว (Story)

ช่วงสงกรานต์  ถือเป็นฤกษ์งามยามเหมาะ หาเรื่องนั่งคุยกับน้องๆในชมรม

ว่าอะไรพาเราอยู่ที่นี่ คาดหวังอะไรหรอ จากการอยู่ด้วยกันมา 4-5 ปี

บ้างก็ตอบว่า ธนู นี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้อยากรู้

บ้างก็ตอบว่า ก็เสาะหาครูบาอาจารย์ไปเรื่อยๆ จนมาเจอธนูฝึกสติ

ส่วนสิ่งที่คาดหวัง บางคนตอบว่า เรามาไกลเกินฝึกสติ ด้วยธนูแล้ว

 

 

“สมดุล”

ทางโลก พวกแกยังไปไม่รอด ทางธรรมน่าจะลำบากนะ ท่านอาจารย์วรภัทร์ ภู่เจริญ ผู้ก่อตั้งชมรมธนูโพชฌงค์ เคยกล่าวติดตลกไว้

อจ.วรภัทร์ พาเราเดินทางผ่าน งานประชารัฐ ปฏิรูปการศึกษา กับ 12 บริษัทนายทุน ได้เจอผู้หลักผู้ใหญ่ระดับประเทศมากมาย มาสู่ การเรียนการสอนที่เป็นระบบโค้ช ทุกคนต้องฟังเป็น และตั้งคำถามชวนคิดได้ ที่สำคัญคือ เดือนกรกฎาคมนี้ พวกเราทุกคนที่จะสอบเลื่อนดั้ง ด้วยการเก็บชั่วโมงการโค้ช 100 ชั่วโมง

ดั้ง คือ การแบ่งลำดับขั้นของผู้เรียน จากใหม่ ไปเก่า ยิ่งดั้งสูงๆ แปลว่า อยู่มานาน

เราเรียกกลุ่มศิษย์พี่ นี้ว่า สายดำ ดั้งอะไร ก็ว่ากันไปตามทักษะ ที่ระบุไว้ตามคุณสมบัติ ส่วนคนที่เข้ามาใหม่ จะยังไม่มีดั้ง ถูกเรียกว่า สายขาวใหม่

แต่ก็มีศิษย์พี่ที่อยู่มานาน ที่ยังเป็นดั้ง0  อาจเป็นเพราะภารกิจในชีวิต ที่เวลายังไม่ลงตัวกับกิจกรรมของชมรม จึงอยู่เป็นร่มไทร ให้เราได้สอบถามถึง ตำนานความเป็นมาของชมรม

 

“มีคุณค่า”

พี่แอร์ คุณนายแอร์ หรือคุณแม่แอร์ ศิษย์พี่รุ่นสี่แผ่นดิน ก็เป็นอีกท่านที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ช่วยก่อตั้งชมรมธนู ผู้ทำงานเป็นเบื้องหลัง ให้ทุกคนแบบไม่มียศ ไม่มีตำแหน่งมาโดยตลอด  ตั้งแต่วันที่ชมรมยังไม่มีที่สุมหัว หรือ โพรงกระต่าย อย่างทุกวันนี้ …

นั่งคุยกับคุณนายแม่ อยู่บ่อยครั้ง พบว่า เธอก็รู้สึกไม่ต่างจากคนอื่นๆ คือเรามาไกลมาก  จากวันแรกเมื่อห้าปีก่อน

กระบวนการสร้างคน ของชมรมธนู นั้น เหมือนการ ปลูกต้นไม้ เราไม่มีทางรู้ได้เลย เรามีเมล็ดพันธุ์อะไรอยู่ในมือบ้าง เรามีหน้าที่โปรยมันลงดิน ที่เตรียมไว้อย่างดี รดน้ำ ใส่ปุ๋ย ควบคุมแสงแดด ติดตามดูใกล้ชิดบ้าง ห่างๆบ้าง

เราทำได้แค่นั้นจริงๆ ไม่สามารถกะเกณฑ์ ได้เลยว่า ต้นไม้จะกลายเป็นต้นอะไร เราอยากได้ต้นนี้ ทำไมแกโต แล้วกลายพันธุ์เป็นแบบนี้วะ

ใช่แล้ว เราไม่เคยถอนใครทิ้ง ให้โอกาส กันและกัน ในการปรับตัว จะโตเป็นพันธุ์อะไร ก็ช่าง ขอให้คุณค้นพบคุณค่า หาตัวเองให้เจอ ได้ทำประโยชน์ดังที่คุณหวังตามปณิธาน เท่านั้นก็พอ เราจะอยู่ด้วยกัน… ประคับประคองกันไป รอคอยวันที่ เบิกบาน

 

“เบิกบาน”

อะไร ทำให้ดอกไม้บาน

เวลาที่ใช่

สถานที่บ่มเพาะ ใช่

บรรยากาศ ใช่

คนดูแลที่ใช่

ประเดี๋ยว ดอกไม้บานเอง นี่คือวิธีคิด ของคนเป็น ฟา

อย่าโทษ ดอกไม้ ถ้าดอกไม้ไม่บาน

 

ให้กลับมาดูที่กระบวนการ ดินเหมาะสมกับการเพาะปลูกแล้วหรือยัง เตรียมดินมาดีไหม ระบบนิเวศน์ล่ะ เป็นอย่างไร ปริมาณแสงแดด ฝน ลม ล้วนมีผลต่อการบาน

หากอุปมา การบานของดอกไม้ คือ ดวงตาที่เห็นธรรม

ทางญี่ปุ่น พุทธศาสนานิกาย ชินงอน โดยหลวงปู่คุไค โคโบไดชิ  (Kobo Daichi) แห่งหุบเขาโคยะซัง เมืองวากายาม่า ก็ได้มีเรื่องราวเปรียบเปรย จิตที่เข้าถึงธรรม ด้วย ดอกบัวและพระจันทร์ เช่นกัน

หลวงปู่คุไค ใช้พระจันทร์ ซึ่งเป็นตัวแทนของจิตใจมนุษย์ มีข้างขึ้น ข้างแรม เมื่อวานเราเสียใจ นั่งร้องไห้ วันนี้เราหัวเราะ พรุ่งนี้ไม่มีใครตอบได้ สลับกันไปอย่างนี้

พระจันทร์ ที่มีทั้งด้านมืด และด้านสว่าง โดยอิทธิพลจากพระอาทิตย์

 

 

และอีกหลายความเชื่อ ใช้แสงอาทิตย์เป็นตัวแทนของพระไวโรจนพุทธเจ้า หรือสมเด็จองค์ปฐม มนุษย์คนแรกที่เดินทางออกจาก วัฏฏะ และกลับมาช่วยเหลือมนุษย์ที่เหลือ

 

แสงอาทิตย์ คือ ตัวแปรหลักที่ทำให้ พระจันทร์ค่อยคลายออกจากด้านมืด จนสว่างสุกใส ไปทั้งดวง

 

ดอกบัวล่ะ ดอกบัว สอนอะไรเราบ้าง

ดอกบัว มันเติบโตได้จากโคลนตม กลีบดอกทั้งหนา ทั้งมัน ทนทานทุกสภาพอากาศ อดทนให้โคลนตมเลี้ยงดูขึ้นมา ดอกบัวไม่เคยรังเกียจโคลนตม กลับขอบคุณ ที่ยิ่งเน่าเหม็น ดอกบัวยิ่งเจริญเติบโตได้ดี

 

จริงๆ แล้ว เรื่องพวกนี้ สอนอะไร

หลวงปู่คูไค ตั้งใจจะสอนอะไร สอนให้เราเรียนรู้จากธรรมชาติ ทุกสิ่งอย่างรอบตัว ล้วนเป็นครูของเรา ได้ทั้งสิ้น

 

หากเราเห็นคุณค่า

หากเรารู้สึกขอบคุณสิ่งเหล่านั้น

 

นี่คือเหตุผล ที่ชมรมธนู สร้างคน ด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย

ชงชา จัดดอกไม้ วาดสีน้ำ พู่กันจีน คัดพระสูตร ขี่ม้า พายเรือ นั่งสมาธิ 10 ชั่วโมงต่อเนื่อง จัดทัวร์ไหว้พระ จัดกิจกรรมช่วยเหลือสังคม จัดตั้งบริษัทจำลอง และอีกหลายรูปแบบ ในอนาคต ที่จะเกิดขึ้น

 

เราเรียนรู้อะไร ที่จะทำให้ดอกบัวบาน ได้บ้างในทุกวัน

ถ้าค้นพบเทคนิค เครื่องมือใหม่ๆ …วันนี้เรามีบ้านใหม่ออนไลน์แห่งนี้แล้ว อย่าลืมนำมาแบ่งปันกันในโอกาสต่อๆไป นะคะ

สวัสดีปีใหม่ ค่ะ

 

 

มาดามหัวสี่เหลี่ยม

(บรรณาธิการ)

เมษายน 2561